วพจน์ เพชรสุพรรณ

    วพจน์ เพชรสุพรรณ เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังระดับตำนานของประเทศไทย และอยู่ในวงการมานานหลายสิบปี โดยสร้างผลงานเพลงออกมามากมายนับไม่ถ้วน จวบจนถึงปัจจุบันก็ยังคงผลิตผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง  ผลงานเพลงของท่านหลากหลาย ไม่ว่าจะ แหล่ อีแซว เพลงพื้นบ้านต่างๆแม้แต่หมอลำ ก็โด่งดัง ชื่อจริง พาน สกุลณี  เกิดเมื่อวันที่ 7 มี.ค 2485 บ้านวังน้ำเย็น อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี 

     ในช่วงวัยเด็ก ไวพจน์ เพชรสุพรรณ  เริ่มหัดร้อง เพลง อีแซว ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านของจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งแต่อายุ12 ปี โดยได้ฝึกหัดร้อง และติดตามมารดา ซึ่งเป็นแม่เพลงอีแซว จนสามารถร้องเพลง อีแซว เพลงแหล่ได้เมื่ออายุ 14 ปี และได้หัดร้องลิเกกับคณะ ลิเกประทีป แสงกระจ่าง และไวพจน์ ยังมีความสนใจใน เพลงลูกทุ่งอีกด้วย ฝึกฝนขับร้องอยู่ตลอด จนอายุ 16 ปี 

    ไวพจน์ เพชรสุพรรณ จึงได้ลงประกวดร้องเพลงครั้งแรก ปรากฏว่า ชนะเลิศ ซึ่งใช้เพลง จันทโครพ ของพร ภิรมย์ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ  ชื่นชอบ "สมยศ ทัศนพันธ์" เป็นพิเศษซึ่งกำลังโด่งดังในยุคนั้น มีวันหนึ่ง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ   ได้มีโอกาศไปชม วงดนตรี สุรพล สมบัติเจริญ ด้วยใจที่อยากจะเป็นนักร้อง จึงได้ไปสมัครเป็นนักร้องกับครูสุรพล ซึ่งครูสุรพลเองก็ไม่ได้รับไว้ และยังตำหนิไวพจน์ไว้ว่า"เสียงใหญ่เหมือนเสียงควาย และใล่ให้ไปกลับไถนาเสีย

ไวพจน์ เพชรสุพรรณ 

     ไวพจน์ เพชรสุพรรณ จึงรู้ผิดหวัง เพราะดันเอาเพลงสมยศ ไปร้องให้ครูสุรพลฟัง แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ คิดว่าสักวันหนึ่งต้องเป็นของเขา แต่ก็ไม่นานโชคชะตาโอกาศก็มาถึง เมื่อ วงดนตรีบางกอกชะชะช่า ของ ชุติมา สุวรรณรัตน์ มาทำการแสดงและเปิดรับนักร้องประกวด ไวพจน์ จึงโอกาศไปสมัครประกวดจน ได้รับคำชมเชย จากผู้ชมมากมาย และโอกาศนี้เองนักร้องรุ่นพี่คือชัยชนะ บุญณะโชติ ชักชวนเข้าวงการ และได้ฝากไว้ กับ วงดนตรี ร่วมดาวกระจาย ของครู สำเนียง ม่วงทอง ช่วยงานในวงทำทุกอย่างอยู่เป็นปี ๆ แล้วครูสำเนียง จึงได้อัดแผ่นเสียงเพลงแรก "ให้พี่บวชเสียก่อน "ตามด้วยเพลง "แบ่งสมบัติ,ตามน้อง" จึงทำให้ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ  มีชื่อเสียงโด่งดังจึงได้แยกตั้งวงของตัวเอง 

วงดนตรี ไวพจน์ เพชรสุพรรณ 

    ความดังขนาดว่าเวลาวงไปประกบกับวงดนตรี ครูสุรพล ทีไร ต้องทำให้ครูสุรพลอึดอัดใจทุกครั้ง เพราะเคยสบประมาทว่าเสียงไวพจน์เหมือนควาย และไวพจน์ เองจึงก็ได้พิสูจน์เสียงควายที่ประสบความสำเร็จ ต่อครูสุรพล หลังจากตั้งวงก็มีเพลงดังๆอีกหลายเพลง เช่น แบ่งสมบัติ ไวพจน์ลาบวช ห่วงลูก สามปีที่ไร้นาง รักพิลึก สาละวันรำวง สายเปลสายใจ แตงเถาตาย หนุ่มนารอนาง อีก 2000 กว่าบทเพลงจนได้ถูกขนานนามว่า " ราชาเพลงแหล่

ไวพจน์ เพชรสุพรรณ กับ พุ่มพวง ดวงจันทร์

   

และยังแต่งเพลงให้กับนักร้องหลายเพลง เช่น ต.ช.ดขอร้อง เพชร โพธาราม" แก้วรอพี่,นักร้องบ้านนอก พุ่มพวงดวงจันทร์" และไวพจน์ยังเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) พ.ศ. 2540 และยังได้รับเข็มพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อ พ.ศ. 2514 อีกด้วย