ประวัติ
สนธิ สมมาตร มีชื่อจริงว่า ไพฑูรย์ ทุมวงศ์ เกิดเมื่อปี 2495 ที่บ้านทุ่ง ต.นาคำใหญ่ ปัจจุบันขึ้นอยู่กับ ต.แดงหม้อ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี โดยเป็นบุตรคนสุดท้องของครอบครัว เมื่อปี 2512 ขณะกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนศรีทองวิทยา ที่ จ.อุบลราชธานี สนธิ สมมาตร ก็หยุดเรียนกลางคันและเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
แบบไม่รู้จักใครเลย โดยมีความหวังลึกๆ ว่าจะมาเป็นนักร้อง
เข้าสู่วงการ
ที่เมืองหลวง
สนธิ สมมาตร เข้าทำงานในโรงงานทำเก้าอี้บุนวม
ระหว่างที่โรงงานส่งไปซ่อมเก้าอี้ที่โรงภาพยนตร์เมโทร ย่านประตูน้ำก็ได้ทำความรู้จักคุ้นเคยกับผู้จัดการโรงภาพยนตร์
และเอ่ยปากขอร้องว่าหากมีวงดนตรีมาเปิดการแสดงที่นี่ ขอให้ช่วยฝากฝังเขาเป็นนักร้องด้วย
ต่อมาสนธิ สมมาตร ลาออกจากโรงงานทำเก้าอี้มาเป็นบริกรย่านถนนเพชรบุรี
และก็ได้เริ่มเข้าประกวดร้องเพลงตามงานวัดแถวนั้น ในปี 2515
สนธิ
สมมาตร ชนะการประกวดร้องเพลงที่วัดอุทัยทารามจากเพลงในแนวเสียงของทูล ทองใจ
และมีโอกาสเข้าเป็นนักร้องในวง “181 คอมโบ้” โดยได้รับค่าตัวครั้งละ 20 บาท แต่เดือนหนึ่งมีงานแค่ 1-2 ครั้ง
แต่ในปีเดียวกันนั้น ผู้จัดการโรงภาพยนตร์เมโทรก็มาเรียกตัวเขาไปพบกับขวัญจิต
ศรีประจันต์ที่มาเปิดการแสดงที่โรงภาพยนตร์ และได้เป็นนักร้องประจำวงตามที่หวัง
โดยใช้ชื่อว่า คม คีรีบูน ที่เขาเป็นคนตั้งเอง
จากความชื่นชอบเป็นการส่วนตัวต่อชื่อ คม ขวัญแก้ว นักร้องคนหนึ่งในวงสุรพล สมบัติเจริญ ส่วนคีรีบูนนั้น
เขาก็ว่าเป็นนกที่ได้ชื่อว่ามีเสียงไพเราะที่สุด
ในปี 2518 สนธิ สมมาตร
ลาออกจากวงขวัญจิต ศรีประจันต์ และไปเก็บตัวอยู่ที่เชียงใหม่อย่างเงียบๆร่วมครึ่งปีโดยให้เหตุผลว่า
ไปตามที่ใจอยากไป แต่ครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา ได้ไปเรียกตัวเขากลับมา
พร้อมกับทะยอยป้อนเพลงดังให้เขาอยู่เป็นระยะ ขณะที่ชื่อ คม คีรีบูน
ถูกเปลี่ยนชื่อมาใช้ สนธิ สมมาตร จวบจนถึงปัจจุบัน ตามคำแนะนำของครูเอง งานนี้
สนธิ สมมาตร กลับมาดังอีกครั้งด้วยเพลง “ ด่วน
บขส.” ของครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา และ “ ลูกทุ่งคนยาก “ ของครูสุรินทร์ ภาคศิริ เพลงเหล่านี้และเพลงอื่นๆทำให้ สนธิ สมมาตร
ผูกขาดเพลงหวานแนวอีสานไว้หมดสิ้นแบบไม่มีใครมาเทียบได้จวบจนถึงปัจจุบัน
เพลงดังของเขาส่วนหนึ่งถูกนำไปเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักแม่น้ำมูล ที่สร้างเมื่อปี 2521 โดยมีดาราดังอย่างสุริยา
ชินพันธ์ เป็นพระเอก และต้องรับบทลิปซิงค์เพลงของสนธิ สมมาตร
ซึ่งการผสมผสานของเสียงที่ไพเราะ
และภาพที่งดงามเป็นที่ชื่นชอบของแฟนภาพยนตร์ในยุคที่ยังไม่รู้จักมิวสิกวิดีโออย่างมาก
ขณะที่สุริยา ชินพันธุ์ ก็เคลิบเคลิ้มตามแฟนภาพยนตร์ไปด้วย
ถึงขั้นลงทุนตั้งวงดนตรีลูกทุ่งตามคำแนะนำของแฟนภาพยนตร์ ชื่อวง ลูกทุ่งดารา สุริยา ชินพันธุ์ จากนั้นดาราอีกหลายคนก็แห่กันมาจับธุรกิจเพลงลูกทุ่งกันอีกหลายคน
จุดที่สนธิ สมมาตร สุดยอดนักร้องลูกทุ่งอิสาน และกวีมือทองอย่างวิสา คัญทัพ มาพบกันซึ่งถ้าจะเปรียบก็คงเหมือนยอดอาชาที่แสนปราดเปรียวมาเจอสุดยอดจ๊อกกี้
เรื่องมีอยู่ว่า สุรสีห์ ผาธรรม
ผู้สร้างและกำกับภาพยนตร์ ชื่อดังโดยเฉพาะภาพยนต์เรื่อง''ครูบ้านนอก''ที่ส่งให้ ปิยะ ตระกูลราษฏ์ และ วาสนา สิทธิเวท โด่งดังเพียงข้ามคืนมาแล้วได้สร้างภาพยนตร์ เรื่อง''สวรรค์บ้านนา'' ซึ่งหนังก็ต้องมีเพลงประกอบด้วย ก็ได้
วิสามาเขียนเพลง
และได้สนธิเป็นคนร้องซึ่งก็โด่งดังทะลุทะลวงด้วยเนื้อร้องภาษากวีและท่วงทำนองที่แสนไพเราะ ผ่านน้ำเสียงอันยอดเยี่ยมของสนธิ ผู้คนรู้จักเพลงนี้ไม่น้อยกว่าหนังสวรรค์บ้านนา ท้องทุ่งอีสานถูกขับกล่อมด้วยเพลงนี้มายาวนาน ผมจำได้ว่าตอนที่กำลังสะพายวิทยุธานินท์เลี้ยงควายอยู่กลางท้องทุ้ง
ยามเมื่อได้ยินเพลงนี้คราใด ความเหน็ดเหนื่อยมันหายไปเลย เคยเขียนจดหมายไปขอเพลงนี้ก็หลายคราจวบจนปัจจุบันตามสถานีวิทยุทางภาคอีสานก็ยังมีคนขอเพลงนี้อยู่ แม้เพลงนี้จะมีความยาวถึง 6 นาทีกว่าๆซึ่งสามรถเปิดเพลงอื่นได้ถึง 2 เพลงก็ตาม
สำหรับสนธิ
สมมาตรนั้น หลังความสำเร็จของภาพยนตร์ เขาก็หันมาตั้งวงดนตรีของเขาเอง
และออกเดินสายแถวภาคอีสาน แต่ก็อยู่ได้แค่ปีกว่าๆก็ยุบวงไป สนธิ สมมาตร
มีผลงานเพลงอยู่ค่อนข้างน้อย คือประมาณ 60 เพลงเท่านั้น
ถ้าไม่นับการเอาเพลงเก่ามาขับร้องใหม่ นอกจากนั้นก็ยังเคยร่วมแสดงในภาพยนตร์เช่นเรื่อง สวรรค์บ้านนา และ ดอกคูนเสียงแคน
ปัจจุบัน
จากข้อมูลเท่าที่มีล่าสุดเมื่อปี 2543 สนธิ สมมาตรยังคงครองตัวเป็นโสด ก่อนหน้านี้สนธิ สมมาตร เจ้าของเสียงเพลง "ลูกทุ่งคนยาก" ก็ป่วยเป็นต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังและต้องเข้ารับการผ่าตัดเช่นกัน หลังการผ่าตัดที่รักษากล่องเสียงอยู่สองสามปี แม้เสียงจะเปลี่ยนไปบ้าง สนธิ สนมาตรก็มีผลงานเพลงออกมาบ้าง โดยส่วนมากจะเป็นการนำเพลงเก่ากลับมาขับร้องใหม่ ปัจจุบัน สนธิ สมมาตร ได้ไปทำธุรกิจเปิดร้านขายกาแฟ
ผลงานแพลงดัง
· ออกพรรษาที่เชียงคาน (ทอง ธนาทิพย์)
· ด่วน บ.ข.ส. (พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา)
· ฟ้าร้องที่หนองหาร (ทอง ธนาทิพย์)
· รักเหลือเดน (ทอง ธนาทิพย์)
· ดอกจานบาน (พงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา)
· คืนลาอาลัย (ชลธี ธารทอง)
· ลูกทุ่งคนยาก (สุรินทร์ ภาคศิริ)
· แต่งงานกันเด้อ (สนิท มโนรัตน์)
· อีสานบ้านเฮา
· ทิ้งใจไว้เมืองเลย
· ดอกอ้อริมโขง
· ทุ่งอีสาน
· บ่ลืมอีสาน
· ทุ่งกุลาร้องไห้
· แคร์ด้วยหรือน้อง
· ลำครวญหวลไห้
· เป่าแคนกล่อมสาว
· เป่าแคนเกี้ยวสาว
· หนุ่มภูพาน
· หนุ่มนาช้ำรัก
· ฝากเพลงถึงเธอ ( วิสา คัญทัพ )
0 Comments
แสดงความคิดเห็น