เด็กหญิง ศรัญญาวี พุทธรัตน์ วัยเพียง 9 ขวบ กับตำแหน่งชนะเลิศประกวดร้องเพลงที่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ทำให้เด็กน้อยตัวเล็กๆ ได้เป็นนักร้องประจำวงดนตรี พรนารายณ์ ของ จันทร์จ๋า สกุลเชื้อ นี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางการขายเสียงนาม วนารัตน์ พัฒนวิเชียร และเปลี่ยนชื่อเป็น น้ำอ้อย พรวิเชียร ในเวลาต่อมา


            ชีวิตช่วงที่โด่งดังกว่า 3 ปี ที่ต้องเดินสายไปในที่ต่างๆ พร้อมเพื่อนอีกร้อยกว่าคน พอเข้าปีที่ 4 จึงได้บันทึกแผ่นเสียงเป็นครั้งแรกในเพลง รอวันทหารกลับ แต่งโดย อ.ก้อง กาจกำแหง พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นน้ำอ้อย พรวิเชียร ตามคำแนะนำของครูไพบูลย์ บุตรขัน และมาเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปจากเพลง สาวครวญจากสวนแตง แต่งโดย อ.ธงชัย เล็กกำพล ซึ่งร้องแก้กับเพลง ลารักจากสวนแตง ของสายัณห์ สัญญา ช่วงปี 2518-2520

            ตลอด 5 ปี ของการเดินสายกับวงพรนารายณ์นั้นได้รับการต้อนรับจากแฟนเพลงอย่างล้นหลามไม่ ว่าจะไปทำการแสดง ณ จังหวัดใด ต้องแสดงไม่ต่ำกว่า 3 รอบ ทุกครั้งไป

            เมื่อวงดนตรี พรนารายณ์ ไปเปิดวิกที่ไหนก็แล้วแต่ คนดูต้อนรับมาก ต้องมีถึง 3 รอบ จนบางครั้งวิกแตกเลยต้องเปิดให้คนเข้ามาไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมีการทุบกระจกห้องขายบัตร ช่วงนั้นยอมรับว่าวงดนตรี พรนารายณ์ มีชื่อเสียงมากมีนักร้องที่บันทึกแผ่นเสียงอยู่ในวงถึง 18 คน เช่น สัญญา พรนารายณ์ โรจน์ เมืองลพ มิตร เมืองจันทร์ แวว อาภัสรา (มยุรา) ตัวน้ำอ้อยเองก็มีเพลงดังหลายเพลงมี สัญญารักปากช่อง (เพลงแก้สัญญาเมื่อสายัณห์) สัญญารักน้ำอ้อย (ร้องคู่กับสัญญา พรนารายณ์) ห้าปีที่เธอลืม (ร้องแก้กับสายัณห์) วิญญาณรักดอกประดู่ ทหารบกที่รัก ดวงจันทร์ดวงใจ วอนหนุ่มกลับนา รักคนที่เขารักเราดีกว่า (แก้กับสัญญา)

           หลังจากรับใช้วงดนตรี พรนารายณ์ อยู่ 5 ปี ด้วยความที่ต้องเดินสายทุกวันทำให้ร่างกายเริ่มไม่ไหว และมีปัญหาเจ็บป่วยตามมา ประกอบกับความเหนื่อยล้า น้ำอ้อยจึงขอหยุดพักการเดินสายกับวงแล้วมายึดอาชีพ ทำขวัญนาคและร้องเพลงตามงานทั่วไปแทน

        เธอกล่าวว่่า ....ตอนนั้นมีงานทุกวันเลย วันละ 3 รอบ เริ่มไม่สบายก็เลยตัดสินใจหยุดพักยาวเลย จนวงยุบไปพี่ก็มาร้องเพลงตามห้องอาหารอยู่เป็นปี เดี๋ยวนี้ไม่ได้ร้องตามห้องอาหารแล้วหันมารับทำขวัญนาคบ้าง ร้องเพลงตามงานทั่วไป มาเมื่อปีที่แล้วเพิ่งมาตั้งทีมทำแดนเซอร์เพิ่มขึ้นมา มีลูกสาวมาเต้นด้วย